เด็กนักเรียนถูกครูทำโทษจนตาย ทั้งที่ป่วยเพิ่งออกจากโรงพยาบาล

                 เมื่อ วันที่ 7 เดือนกันยายนปีพศ2563   ได้มี Facebook ของผู้ปกครองคนหนึ่งโพสต์ข้อความสุดสะเทือนใจบอกเล่าเรื่องราวของการสูญเสียที่เขาต้องสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับจากการที่ลูกชายของเขานั้นกับคุณครูที่โรงเรียนทำโทษโดยรายละเอียดของข้อความที่เขามีการเขียนเอาไว้ก็คือ  ลูกชายของเขามีอาการไม่สบายเป็นไข้เขาจะให้ลูกหยุดเรียนและพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล

ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นทางโรงพยาบาลได้ออกใบรับรองแพทย์ให้วันรุ่งขึ้นดูของเขาไปโรงเรียนตามปกติแต่คุณครูที่สอนสั่งทำโทษลูกชายของเขาโดยสาเหตุที่ทำให้หมดเงินก็เพราะว่าลูกชายของเขาไม่มีการบ้านมาส่งเนื่องจากว่าในวันที่ลูกชายของเขาหยุดเรียนเพื่อไปโรงพยาบาลนั้นคุณครูได้สั่งการบ้านเรื่องลูกชายของเขาได้นำใบรับรองแพทย์ไปส่งให้คุณครูดูว่าตนเองนั้น

หยุดไปโรงพยาบาลจึงไม่รู้ว่ามีการบ้านแต่คุณครูไม่ยอมฟังเหตุผลระบุว่าเป็นความผิดของลูกชายของเขาที่ไม่ขนขวายถามเพื่อนว่ามีการบ้านอะไรแล้วทำมาส่งครูดังนั้นคุณครูคนดังกล่าวจึงได้สั่งลงโทษลูกชายของเขาด้วยการให้ทำท่าลุกนั่งจำนวนทั้งสิ้น 100 ครั้งซึ่งในวันที่ถูกทำโทษนั้นดูเขายังมีอาการปกติแต่มีอาการอ่อนเพลียและปวดเมื่อยเมื่อกลับถึงบ้านก็ได้เล่าให้ผู้ปกครองฟังว่าถูกทำโทษ

แต่อย่างไรก็ตามตกดึกในวันเดียวกันนั้นเอง   ช่วงเวลาประมาณ 03:00 น ถึง 04:00 น ลูกของเขาก็เสียชีวิตลงโดยที่คนในบ้านไม่มีใครรู้เลยว่ารู้อีกทีก็เป็นในช่วงเช้าตอนจะปลุกลูกออกไปโรงเรียนแล้วซึ่งในขณะนี้ทางครอบครัวได้มีการนำร่างของลูกชายไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลถึงสาเหตุการเสียชีวิตโดยคุณหมอระบุว่าสาเหตุนั้นเกิดมาจากกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ

ซึ่งมีผลมาจากการที่ถูกทำโทษให้ลุกนั่งเป็นจำนวนมากครั้งนี้ครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตต้องการให้โรงเรียนออกมารับผิดชอบอย่างไรก็ตามเรื่องราวนี้ทางโรงเรียนได้มีการทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมาทางผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิตซึ่งเวลาก็ผ่านไปหลายวันแล้วยังนั้น

ทางด้านผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิตเกรงว่าเรื่องจะเงียบและโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบจึงได้มีการโพสต์ข้อความนี้บน Facebook เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้คนในโลกออนไลน์นั้นช่วยติดตามข่าวช่วยเป็นกระบอกเสียงในการขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของเขาด้วย   เพราะครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตไม่อยากให้ลูกของเขาตายฟรี และไม่อยากให้มีเรื่องราวแบบนี้ไปเกิดกับเด็กคนอื่นอีก

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์ ruay