หากมีอาการเป็นไข้หนาวสั่น มีอการปวดหรือบวมตามกระดูก หากเคลื่อนไหวได้น้อย หรือมีอาการอ่อนเพลีย บางครั้งเบื่ออาหาร อย่ามองข้ามมันไป เพราะจริง ๆ แล้ว คุณอาจจะกำลังป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบได้
โรคกระดูกอักเสบ คืออะไร?
รองอธิบดีการการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคกระดูกอักเสบ เกิดจากการที่กระดูกของเราติดเชื้อ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย รองลงมาคือเชื้อรา โรคกระดูกอักเสบเกิดสามารถเกิดได้กับกระดูกทุกชิ้นของร่างกายที่พบบ่อย ๆ คือ กระดูกขา เท้า และกระดูกสันหลัง แต่มีความเจาะจงหากกระดูกอักเสบจะพบเพียงตำแหน่งเดียว แต่อาจพบหลายตำแหน่งพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังพบได้ในทุกอายุตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ และมีโอกาสเกิดเท่ากันทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
สาเหตุของโรคกระดูกอักเสบ
สาเหตุของโรคกระดูกอักเสบเกิดได้ 3 ทาง คือ
1. การติดเชื้อจากกระแสเลือด
2. การติดเชื้อจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้เคียงกระดูกที่อักเสบติดเชื้อ
3. การติดเชื้อจากเนื้อเยื่อกระดูกขาดเลือดจากการไหลเวียนเลือดไม่ดี
โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้หนาวสั่น และปวดบวมตามกระดูกที่อักเสบ หากเคลื่อนไหวกระดูกส่วนที่อักเสบได้น้อย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในกระดูกอักเสบเรื้อรังมักมีแผลและหนองไหล ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงกับกระดูกอักเสบเจ็บ โต คลำพบก้อน
กลุ่มเสี่ยงโรคกระดูกอักเสบ
นายแพทย์สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากโรคกระดูกอักเสบ อาทิ
• เกิดอุบัติเหตุ หรือผ่าตัดกระดูกหรือข้อในระยะเวลา 1-3 เดือนก่อนเกิดกระดูกอักเสบ
• ป่วยด้วยโรคที่ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
• ผู้ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีดยา
เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคกระดูกอักเสบ
แพทย์จะพิจารณาจากประวัติการเจ็บป่วยในด้านกระดูกก่อนอันดับแรก แล้วจากนั้นจึงการตรวจร่างกายในตำแหน่งกระดูกที่มีอาการโดยการเอกซเรย์ การเพาะเชื้อจากหนอง และอาจตัดชิ้นเนื้อกระดูกชิ้นที่มีอาการเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อนำมาวินิจฉัยให้ได้ผลแน่นอนที่สุด
การรักษาโรคกระดูกอักเสบ
การรักษาโรคกระดูกอักเสบ มี 2 วิธีหลัก ได้แก่
1. การให้ยา โดยจะให้ยาฆ่าเชื้อชนิดที่ตรงกับเชื้อที่ตรวจพบ โดยให้ยาทางเลือด แบบหลอดเลือดดำและรับประทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่จะประเมินจากชนิดของเชื้อ ความรุนแรงของอาการอักเสบ และสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย
2. การผ่าตัดมีหลากหลายวิธีซึ่งขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ ได้แก่ การผ่าตัดปลูกกระดูกใหม่ การตัดขาในกรณีที่เกิดการอักเสบที่กระดูกขาแบบรุนแรงมากและเรื้อรัง
อย่างไรก็ตามเราควรที่จะเรียนรู้แบบ กันไว้ดีกว่าแก้ คือป้องกันไว้ดีกว่ามาตามรักษา ทั้งนี้วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การรักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งของเครื่องใช้อยู่เสมอ คอยระมัดระวังอย่าให้มีดบาดหรือเกิดอุบัติเหตุจนมีแผล โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกอักเสบ ทั้งนี้ผู้ที่มีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่แน่ใจในอาการ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาต่อไป