3 วิธีออกแบบชีวิตอย่างไรให้มีความสุข

นอกจากการมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงแล้ว รู้หรือไม่ว่า การที่เราจะใช้ชีวิตให้มีความสุขได้นั้น สามรถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละคนก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน

วิธีออกแบบชีวิต แต่ขอบอกเลยว่าแต่ละวิธีนั้นหากเราทำมันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถสร้างความสุข สร้างสุขภาพ และการใช้ชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้

และเราจะเห็นได้ว่า หลาย ๆ คนเริ่มที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็สามารถสร้างสุขภาพร่างกายของเราให้ดีขึ้น

แต่ขอบอกเลยว่า ในสมัยนี้ การที่เราจะสร้างสุขภาพที่ดี และการใช้   เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว   ให้มีความสุขได้นั่นก็สามารถทำได้หลายวิธีเช่นกัน

ซึ่งหากใครที่ต้องการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพ และมีความสุขก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการออกแบบชีวิตอย่างไรให้มีความสุข หากเราทำเป็นประจำรับรองได้เลยว่า จะทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น แถมยังมีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 

 

1.การคิดบวกให้มากขึ้น

คนส่วนใหญ่ในสมัยนี้ มักที่จะมองโลกในแง่ลบกันเยอะมาก ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เรามองโลกในแง่ลบ หรือคิดลบมากเกินไป จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของเราไม่มีความสุขได้ อีกทั้งยังอาจส่งผลดระทบที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตของเราได้อีกด้วย ฉะนั้น เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้ลองคิดบวก เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกสบายจใจ และมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นอย่างแน่นอน 

2.การมีความสุขให้ดี

รู้หรือไม่ว่า การที่เราใช้ชีวิตโดยเอาความเครียดมาเป็นตัวการสำคัญ อาจจะทำให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความกดดันต่าง ๆ มากมาย จนทำให้เราเสียสุขภาพจิตได้ ฉะนั้น การที่เราลองใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น เอาตัวเองออกไปเจอสิ่งใหม่ ๆ สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจไม่เครียด เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยฮีลใจ และทำให้การใช้ชีวิตของเรามีความสุข และมีประสิทธิภาพได้ 

3.การมองหากิจกรรม

สิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกาย และการใช้ชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้นได้คือ การมองหากิจกรรมยามว่างทำ เพื่อทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด เพราะเราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องของความเครียดกันเยอะมาก ๆ ฉะนั้น วิธีการสร้างความสุขให้ตนเองคือ การมองหากิจกรรมที่ใช่ หรือชื่นชอบ เพราะกิจกรรมที่เราอยากทำนั้น จะคอยเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เรามีความสุข และมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้

ทำไมการออกกำลังกายถึงช่วยลดโรคซึมเศร้าได้

เพราะการออกกำลังกายในสมัยปัจจุบันนี้นั้น เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ย่อมส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงให้กับหลาย ๆ คนได้ทั้งนั้น ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่เป็นอย่างมากอีกด้วย

ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีร่างกายที่แข็งแรง แต่ยังสามารถช่วยบรรเทาความเครียด

ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เราจึงจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความเครียด หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น เพียงเพื่ออยากที่จะบรรเทาความเครียด และเพื่อป้องกันการเป็นโรคซึมเศร้านั่นเอง

แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ที่ออกกำลังกายมักที่จะไม่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วนั้น การออกกำลังกายก็ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้าได้

เพราะการออกกำลังกายในบางรูปแบบสามารถสร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุข ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาความเครียด วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า การออกกำลังกายสามารถช่วยป้องกันและลดการเกิดโรคซึมเศร้าได้จริงหรือไม่ ไปดูกันเลย 

1.การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน อย่างไรที่เราทราบกันดีว่า การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุขได้ ซึ่งนั่นก็คือสารเอ็นโดรฟิน เมื่อเราออกกำลังกาย สมองของเราก็จะเกิดการหลั่งสารชนิดนี้ออกมา เพื่อให้เรารู้สึกดี และรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังเป็นสารที่สามารถช่วยปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้นได้อีกด้วย หากใครที่กำลังเครียด ๆ ขอบอกเลยว่าการออกกำลังกายถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้เรานั้นรู้สึกมีความสุขดีมากยิ่งขึ้น

2.การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด เมื่อไหร่ก็ตามที่เราออกกำลังกาย การไหลเวียนเลือดภายในร่างกายของเราจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้เลือดสามารถไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังช่วยควบคุมอาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน ความดันโลหิต ให้อยู่ในระดับที่ปกติอีกด้วย รับรองได้เลยว่าจะยิ่งทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดี แถมยังช่วยบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

3.การออกกำลังกายช่วยเพิ่มอะดรีนาลีน รู้หรือไม่ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเราได้ชาดการออกกำลังกาย ร่างกายของเราจะมีอะดรีนาลีนที่ลดลง จนก่อให้เกิดความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็อาจก่อนให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ง่าย เพราะยิ่งเราเครียดมาก ๆ เราก็จะยิ่งมีความเสี่ยงสูง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายของเราก็จะเพิ่มอะดรีนาลีน ที่สามารถลดความเครียด และทำใก้เรารู้สึกผ่อยคลายได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

3 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สาว ๆ ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว

หากถามว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายกันเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดน้ำหนัก ซึ่งแน่นอนว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็มักที่จะมองหาวิธีที่จะช่วยให้การลดน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วได้ เพราะสิ่งสำคัญของการลดน้ำหนักนั้น การโยโย่ ทำให้หลาย ๆ คนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักหนักใจกันเป็นอย่างมาก

เนื่องจากการลดน้ำหนักนั้นจะยิ่งทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี มีรูปร่างที่สวย มีหุ่นที่เป๊ะได้ และการลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้ ก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งในแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป และเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงอยากที่จะลดน้ำหนักให้เร็วมากที่สุด เพื่อที่บางคนจะได้มีรูปร่างที่สวยไปออกงาน หรือไปออกสื่อต่าง ๆ ไปเที่ยว ไปใส่บิกินีสวย ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการลดน้ำหนักง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สาว ๆ นั้นผอมลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย 

  • มื้อเช้าต้องย่อยง่าย

อาหารใอเช้าถือเป็นมื้อที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยู่ในช่วงขอการลดน้ำหนัก ก็ควรที่จะทานมื้อเข้าเป็นประจำ ซึ่งก็ควรที่จะเน้นไปที่อาหารที่สามารถช่วยให้เราย่อยได้ง่าย เพราะจพยิ่งทำให้การลดน้ำหนักของเรานั้นเห็นผลได้เร็วมากขึ้น รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำจะยิ่งดีต่อร่างกายของเราอย่างแน่นอน 

  • ทานของว่างวันละ 2 มื้อ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำงานหลาย ๆ คนก็มักที่จะรู้สึกง่วง และมักที่จะมองหาอาหารเพื่อเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายของเรานั้นรู้สึกตื่นตัวได้ง่าย เราจึงจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ คนนั้นมักที่จะชอบทานของว่างในระหว่างวันกันอยู่บ่อย ๆ ยิ่งง่วงมากแค่ไหนก็มักที่จะมองหาอาหารมาทาน

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราทานของว่างบ่อย ๆ จะยิ่งทำใหเราอ้วนได้ง่าย ทางที่ดีเราควรที่ทานอาหารว่างวันละไม่เกิน 2 มื้อต่อวัน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก เพื่อที่จะได้ทำให้เรานั้นลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • การลดน้ำตาล

ปัจจัยที่ทำให้เราอ้วนได้ง่ายนั้นก็คือการทานน้ำตาลเยอะ ซึ่งแน่นอนว่าหากเราทานบ่อย ๆ จะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้ ฉะนั้น สำหรับใครที่อยากให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็ควรที่จะงด หรือหลีกเลี่ยงการทานน้ำตาล เพื่อลดการสะสมของไขมัน และเพื่อไม่ทำให้เรานั้นอ้วนได้ง่ายนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

3 วิธีวิ่งอย่างไรให้ลดน้ำหนักได้

การลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนนั้นจับตามองและ ให้ความสำคัญกันเยอะมากๆ เพราะไม่ว่าหนุ่มๆสาวๆในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครๆก็คงที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีมีรูปร่างที่สวยมีหุ่นที่เป๊ะ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตในประจำวันได้

ดังนั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในสมัยปัจจุบันนี้หนุ่มๆสาวๆเริ่มหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกกำลังกาย

ซึ่งก็ถือเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน แต่รู้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีหรือช่วยลดน้ำหนักได้เพียงอย่างเดียว แต่การลดน้ำหนักยังสามารถทำได้ด้วยวิธีอื่นๆอีกมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิ่ง ถือเป็นหนึ่งในกีฬา ที่ได้รับความนิยมและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

เช่นนั้น สำหรับใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก และชื่นชอบการวิ่ง วันนี้เราก็จะมาแนะนำ  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน    การวิ่งอย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนักได้รับรองได้เลยว่านอกจากเราจะได้สุขภาพร่างกายที่ดีแล้ว

เรายังได้หุ่นที่สวยเป๊ะ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย จะมีวิธีไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • การวิ่งโดยไม่ฝืนตัวเอง

คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มองว่า ยิ่งเราวิ่งมากแค่ไหนก็จะช่วยเบิร์นไขมันหรือช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญไขมันของเราได้เป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่เราฝืนร่างกายของตนเองหรือบังคับให้ร่างกายของเราวิ่งมากจนเกินไปนั้น จะยิ่งทำให้การวิ่งไม่มีประสิทธิภาพและไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย

รวมไปจนถึงอาจทำให้การลดน้ำหนักของเรานั้นไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย เช่นนั้นทางที่ดีเราควรที่จะค่อยๆเป็นค่อยๆไปวิ่งโดยที่ไม่ฝืนร่างกายของตนเองเพื่อให้ การลดน้ำหนักนั้น เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด

  • การวิ่งในท่าที่ถูกต้อง

รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีวิธีการวิ่งที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวิ่งที่ไม่ถูกท่า เพราะหากเราอยากสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีหรืออยากลดน้ำหนักด้วยการวิ่งนั้น เราควรที่จะวิ่งในท่าที่ถูกต้องให้มากที่สุด เพราะสิ่งนี้จะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ และช่วยให้การลดน้ำหนักของเรานั้น เกิดผลไม่มากที่สุด

  • หลีกเลี่ยงการวิ่งมากจนเกินไป

แน่นอนว่า ยิ่งเราวิ่งมากขนาดไหน ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงได้ แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราวิ่งมากจนเกินไปนั้น นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบอย่างหนักแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว ดังนั้น สำหรับใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก

ควรที่จะ วิ่งให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายมากที่สุด และทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการวิ่งมากจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายของเรา เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายแล้วยังทำให้การลดน้ำหนักไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

3 อาหารชั้นยอดเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้

ว่าด้วยเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกาย แน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่เราไม่ควรจะมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะการที่เรามีร่างกายที่แข็งแรง มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรง จะทำให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำให้เราไม่ต้องมานั่งกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องของสุขภาพร่างกาย ฉะนั้น ขอบอกเลยว่าการที่เราจะมีระบบภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายที่แข็งแรง

และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหาร เพราะการที่เรานำสิ่งดี ๆ เข้าสู่ร่างกาย จะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรง และดียิ่งขึ้นได้

เนื่องจากหลาย ๆ คนไม่ค่อยที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกาย จะอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นกับร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นคงอยากที่จะมีร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพร่างกายที่ดี มีระบบภูมิคุ้มกันโรคที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำอาหารชั้นยอด ที่รับรองได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำนั้น จะยิ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันโรคได้ จะมีอาหารประเภทไหนบ้าง ไปดูกันเลย

  • อาหารตะกูลมะนาว

เนื่องจากในมะนาวนั้น จะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่สูงมาก ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา เพราะสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรคได้ แถมยังดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย ซึ่งหากเราทานเป็นประจำ ก็จะมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคไข้หวัดได้ ช่วยทำให้ระบบหายใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยต้านการอักเสบต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

  • อาหารตระกูลเห็ด

รู้หรือไม่ว่าในเห็ดจะอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ที่มีส่วนช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งหากใครที่อยากส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันโรค การทานเห็ดเป็นประจำนั้น จะสามารถช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดได้ ช่วยสร้างความสมดุลของความดันได้ และที่สำคัญยังมีส่วนช่วยในการเร่งการเผาผลาญในร่างกายได้ดีมาก ๆ อีกด้วย

  • อาหารประเภทอัลมอนด์

เนื่องจากอาหารตะรกูลนี้ จะเป็นธัญพืชที่ดีต่อร่างกาย ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน ใยอาหาร และวิตามินอี รวมไปถึงสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหากเราทานเป็นประจำนั้นก็จะยิ่งดีต่อร่างกาย เนื่องจากสามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

รู้หรือไม่อดมื้อเช้าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง

มื้อเช้า สำคัญต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งเราไม่ควรที่จะอดอย่างเด็ดขาด ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนมักที่จะมีนิสัยการอดมื้อเช้า เพราะคิดว่าตนเองตื่นสายมากเกินไป และต้องใช้ชีวิตแข่งกันเวลา ซึ่งข้องอ้างเหล่านี้อาจจะทำให้หลาย ๆ คนจำเป็นที่จะต้องอดอารนั่นเอง

แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย

รวมไปถึงการทำงานของเรากาย สมอง ก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง ฉะนั้น การที่เราทานมื้อเช้าเป็นประจำ จะไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา แต่ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก และช่วยป้องกันร่างกายของเราจะความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้อีกด้วย

ดังนั้น สำหรับใครที่มองว่ามื้อเช้าไม่สำคัญ วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า หากร่างกายของเราอดใอเช้าบ่อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเราได้บ้าง ไปดูกันเลย 

  • เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน

เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเราไม่ได้รับมื้อเช้า จะทำให้ในระหว่างวันนั้น เรารับประทานอาหารที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม และอาจจะทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายมากขึ้น จนก่อให้เกิดโรคอ้วนได้นั่นเอง เพราะการที่เรางดมื้อเช้า จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง จนทำให้เราต้องกินมื้อต่อไปที่เยอะมากขึ้นนั่นเอง 

  • เสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโรคที่อันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งรู้หรือไม่ว่า โรคนี้เกิดขึ้นได้จากการที่เรางดมื้อเช้าได้เช่นกัน เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า มื้อเช้านั้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มงดมื้อเช้า ก็จะทำให้สมองของเราสดชื่นได้น้อยลง การทำงานน้อยลง มีความจำที่น้อยลง จนอาจก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้นั่นเอง 

  • เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

รู้หรือไม่ว่าการที่เรางดมื้อเช้าบ่อย ๆ นั้นจะยิ่งทำใหเลือดของเรามีความเข้มข้นที่สูง จนเกิดการอุดตันในหลอดดเลือดได้ แถมยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ร่างกายของเราจะเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดได้อีกด้วย ฉะนั้น ยิ่งเราไม่ทานมื้อเช้าเลย ก็จะยิ่งทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อนและเกิดการอุดตัน จนอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรา ซึ่งทางที่ดี เราควรที่จะให้ความสำคัญกับมื้อเช้า เพื่อเจือจางเลือด ไม่ทำให้เลือดเข้มข้นเกินไป จนเกิดความเสี่ยงต่อการ่างกายของเรา

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

ลดความอ้วนจากการปั่นจักรยานดีอย่างไร

การออกกำลังกายทำได้กันหลากหลายอย่าง การปั่นจักรยานก็เช่นกันที่เป็นส่วนหนึ่งให้คุณได้ออกกำลังกาย เป็นการใช้แรงเพื่อขับเคลื่อน อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกายแต่ว่าจะรู้จะออกกำลังกายด้วยวิธีไหน วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆในการออกกำลังกายมาฝาก เราหวังว่าคงจะเป็นการแนะนำให้คุณได้ตัดสินใจว่าจะออกกำลังกายแบบปั่นจักรยานดีหรือไม่ หรืออาจจะช่วยให้คุณนั้นลุกขึ้นมาออกกำลังกายด้วยวิธีปั่นจักรยาน มาดูกันเลย

 

ข้อดีของการปั่นจักรยาน โดยมีดังนี้

1.การปั่นจักรยานช่วยในเรื่องของการเผาผลานพลังงานของร่างกาย

โดยการปั่นนั้นใช้แรงในการปั่นซึ่งมันจะช่วยยในเรื่องของการเผาผลานร่างกายของคุณให้ดีขึ้น เผาผลานเร็วขึ้น และไม่ใช่ว่าจะเผาผลานเฉพาะตอนปั่นเท่านั้นนะ ซึ่งเมื่อคุณหยุดปั่นจักรยานแล้วระบบเผาพลานของคุณก็ยังคงทำงานอยู่ โดยการนำจักรยานมาปั่นสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการออกกำลังกายบางชนิดอีก ซึ่งถ้าคุณใช้เวลาในการปั่นเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง คุณจะสามารถเผาพลาญพลังงานได้มากจริงๆ ถ้ามีเวลามาปั่นจักรยานกันเถอะรับรองว่าเผาผลาญพลังงานดีเวอร์

 

2.การปั่นจักรยานจะช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคกระดูกข้อเข่าเสื่อม

เมื่ออายุมากขึ้น หรือในวัยชราจะพบว่ากระดูกเข่าเสื่อมมากยิ่งขึ้น โดยไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม ซึ่งการปั่นจักรยานนั้นมันเข้าไปช่วยในเรื่องทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะข้อต่อของเข่า ทำให้มีความยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งการออกกำลังกายอย่างอื่นก็ได้เช่นกันแต่ว่าการปั่นจักรยานนั้นง่ายสุด และเวลาปั่นก็ยังเห็นวิวทิวทัศน์ได้ด้วย

 

3.การปั่นจักรยานช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้

เพราะว่าการที่คุณลุกขึ้นมาปั่นจักรยานนั่นมันไม่ใช่ส่งให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น  เครื่องช่วยฟังอย่างดี     มันยังส่งผลให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นได้ การมองเห็นสภาพแวดล้อมใหม่ๆเวลาปั่นจักรยาน จะส่งผลให้คุณรู้สึกดีขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะถ้าเป็นสถานที่ธรรมชาติแบบปั่นที่ทุ่งหญ้า รอบข้างเป็นนา หรือปั่นบนเขา บนวิวธรรมชาติ จะมีให้รู้สึกดีอย่างทันที 

 

4.ช่วยในเรื่องของการมีสมรรถภาพทางเพศเพิ่มมากขึ้น

เราเชื่อว่าหลายคนอ่านมาถึงข้อนี้คงมีคนสนใจไม่น้อยเลย เพราะเนื่องจากว่าเวลาที่เราปั่นจักรยานเราใช้บริเวณช่วงล่างในการออกแรงปั่น ซึ่งมันก็จะทำให้เลือดมีการสูบฉีดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากคุณมีการออกกำลังกายบริเวณนั้น มันจึงมีส่วนช่วยในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศของคุณเข้าไปด้วย

การขับเคลื่อนคุณภาพและการปรับปรุงการดูแลสุขภาพในเอเชีย

สัมภาษณ์กับ John Yoon กรรมการผู้จัดการ APAC, Joint Commission International คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของผู้ป่วยในหมู่ผู้ให้บริการด้านสุขภาพในเอเชียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหรือไม่ คุณคิดว่าอะไรคือตัวขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนั้น John Yoon กรรมการผู้จัดการ เอเชียแปซิฟิก Joint Commission International (JCI): ผมจะบอกว่ามี 3 เทรนด์หลัก แนวโน้มสำคัญประการหนึ่งคือหลายประเทศในเอเชียกำลังประสบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของตน

ผู้บริโภคในเอเชียกำลังร่ำรวยขึ้น และพวกเขาต้องการการดูแลที่มีคุณภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ผู้ให้บริการกำลังตอบสนองต่อสิ่งนี้ ในภูมิภาคนี้มีกลุ่มโรงพยาบาลและผู้ให้บริการด้านสุขภาพชั้นนำที่แสวงหาและใช้กรอบการทำงานและยุทธวิธีในเชิงรุก เช่น การรับรองระดับสากล

เพื่อสร้างและรักษาคุณภาพการดูแลที่มีคุณภาพสูง เป้าหมายของพวกเขาเป็นมากกว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปฏิบัติตามมาตรฐาน พวกเขาก้าวไปไกลกว่าการปรับปรุงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องและรักษาความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก

แนวโน้มที่สองที่ฉันเห็นคือการนำเทคโนโลยีมาใช้ การระบาดใหญ่ได้เร่งการนำเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพมาใช้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลผ่านระบบสุขภาพทางไกลแต่เนื่องจากอัตราการนำไปใช้อย่างรวดเร็ว ผู้คนจึงเริ่มคิดว่า: เรากำลังให้การดูแลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ผ่านการดูแลสุขภาพทางไกลหรือไม่? ผู้ให้บริการบางรายยังลังเลเล็กน้อยที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีกฎระเบียบที่ไม่สม่ำเสมอ หรือขาดการยอมรับจากผู้นำหรือแพทย์ 

เรากำลังช่วยอำนวยความสะดวกในการนำไปใช้นี้ด้วยชุดมาตรฐานด้านสุขภาพทางไกล เพื่อเป็นเวทีให้ผู้คนสามารถมารวมตัวกันและหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ในลักษณะที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์มากขึ้น แนวโน้มที่สามคือ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล)

พวกเราที่ JCI ได้ร่วมมือกับศูนย์ความยั่งยืนเจนีวาของสหพันธ์โรงพยาบาลนานาชาติ (IHF) เพื่อพัฒนาชุดมาตรฐานที่สามารถช่วยชี้แนะผู้ให้บริการและผู้นำในด้านความยั่งยืน – แนวทาง นโยบาย กิจกรรมที่พวกเขาสามารถพิจารณาว่ามีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และต่ำ -โรงพยาบาลคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ในฐานะอดีตผู้บริหารโรงพยาบาล ฉันสังเกตเห็นช่องว่างในมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้นำไปสู่ความสับสนและความลังเลในหมู่โรงพยาบาล เนื่องจากต้องพบกับมาตรฐานมากมายจากองค์กรต่างๆ ซึ่งมักจะครอบคลุมหัวข้อที่แตกต่างกันโดยไม่มีรากฐานตามหลักฐานที่ชัดเจน

เรารู้สึกว่าในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองด้านการดูแลสุขภาพระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุด เราควรจัดทำแนวทางให้กับผู้นำโรงพยาบาลด้วยมาตรฐานที่สม่ำเสมอและอิงตามหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อนำไปปฏิบัติ ในฐานะหน่วยงานให้การรับรองระดับนานาชาติชั้นนำ JCI มองเห็นกระบวนการรับรองที่พัฒนาไปอย่างไร เราอยากเห็นองค์กรต่างๆ

ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องโดยมีการเสริมและปรับปรุงมาตรฐานของเราทุกๆ สามปีด้วยแนวทางปฏิบัติล่าสุดที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์ น่าเสียดายที่บ่อยครั้งที่เราย้อนกลับไปสามปีหลังจากการสำรวจ เราพบปัญหาเดียวกันนี้อยู่ โรงพยาบาลบางแห่งอาจประสบปัญหาอย่างแท้จริงในการพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

แต่หลายครั้งเราตระหนักดีว่าโรงพยาบาลไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะช่วยปรับปรุงปัญหาเหล่านั้น นั่นอาจเป็นเพราะขาดบุคลากรที่มีความสามารถในด้านคุณภาพหรือด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เพื่อจัดการกับความท้าทายนี้ เรากำลังพัฒนาโปรแกรมใหม่ JCI Continuous Accreditation Program ซึ่งเป็นการปฏิวัติสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ในรูปแบบปัจจุบัน คุณมีทีมผู้สำรวจ 3 ถึง 4 คนเข้ามาในองค์กรของคุณทุกๆ 3 ปี พวกเขาจะพิจารณาทุกสิ่งตั้งแต่ A-Z เนื่องจากมีปฏิสัมพันธ์เพียงเล็กน้อย (ถ้ามี) ระหว่างรอบการรับรอง ซึ่งส่งผลให้ขาดความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ถ่านเครื่องช่วยฟัง

2 เทคนิคการเริ่มต้นออกกำลังกายสำหรับคนอ้วน

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้โหมดที่จะมีพฤติกรรมทำให้ตนเองนั้นมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นหรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนนั้นเอง เพราะเนื่องจากการใช้ชีวิตในประจำวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เลือก

อาจส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดการสะสมของไขมัน จนทำให้ในบางครั้งนั้นน้ำหนักของเราพุ่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่า หากเรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นหรืออ้วนก็มักที่จะเริ่มหันมาดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย แต่รู้หรือไม่ว่า

สำหรับคนอ้วนแล้วการออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เพราะไม่สามารถออกกำลังกายเหมือนกับคนทั่วไปได้เนื่องจากร่างกายไม่พร้อมหรืออาจเกิดผลกระทบหรือปัญหาต่างๆขึ้นได้นั่นเอง

ฉะนั้น สำหรับคนอ้วนคนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการออกกำลังกายหรือลดน้ำหนัก วันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการเริ่มต้นออกกำลังกายสำหรับคนอ้วน รับรองได้เลยว่านอกจากจะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วยังช่วยลดน้ำหนักและช่วยลดการสะสมของไขมันได้ จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกันเลย

1.การเริ่มต้นอย่างช้า ๆ สำหรับคนอ้วนแล้วการออกกำลังกายโทไปสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลและไขมันภายในร่างกายได้ฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ ควรจะเริ่มต้นการออกกำลังกายอย่างช้าช้า และให้ได้ผลดีมากที่สุดเพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบกับการออกกำลังกายเพื่อ  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    ให้ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรานั่นเอง

2.การมองหารูปแบบการออกกำลังกาย ไม่รับว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนอ้วนมีสุขภาพร่างกายที่ดีหรือผอมได้นั้นคือการ ออกกำลังกายที่มีความเหมาะสมสำหรับร่างกายของตัวเองมากที่สุด ดังนี้ หากคุณอ้วนคนไหนที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองหรืออยากที่จะลดน้ำหนัก ขอบอกไว้ว่าการออกกำลังกายที่มีความเหมาะสมสำหรับร่างกายของตนเองนั้นถือเป็น หนึ่ง ในวิธีที่ตอบโจทย์มาก ๆ

3.การตั้งเป้าหมาย รู้หรือไม่ว่าการที่เราตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายอย่างชัดเจนถือเป็น หนึ่ง ในวิธีที่จะทำให้คนอ้วนสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างช้า ๆ หรือเร็วเองก็ตาม หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนก็จะยิ่งทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น หากกคนอ้วนคนไหนที่มีความกังวลในเรื่องของการออกกำลังกาย ขอบอกเลยว่า หากเราเลือกรูปแบบการออกกำลังกายใหเหมาะสม หรือ มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ง่าย และมีประสิทธิภาพ

3 ผักผลไม้ที่ช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้

รู้หรือไม่ว่าน้ำมีความสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราเกิดภาวะขาดน้ำนอกจากจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอยังอาจทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบต่างๆตามมาได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอ และได้รับความเสี่ยงปัญหาสุขภาพต่างๆได้ ยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้ โลกของเรามีอุณหภูมิที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ

บวกกับอยู่ในช่วงของหน้าร้อนจึงทำให้อากาศนั้นร้อนอบอ้าว และทำให้น้ำมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต เพราะสามารถช่วยดับกระหายดับความร้อน และสามารถช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายของเราได้นั่นเอง

ฉะนั้นการที่เราจะดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการไม่ปล่อยให้ร่างกายของเราสูญเสียน้ำหรือเกิดภาวะขาดน้ำ

เพราะอาจจะทำให้เราเป็นลมได้ง่าย ฉะนั้นหากใครที่กำลังมองหาผักหรือผลไม้ที่สามารถช่วยเพิ่มความสดชื่นหรือเพิ่มน้ำให้แก่ร่างกาย

ผักผลไม้ที่ช่วยเติมน้ำ วันนี้เราก็จะมาแนะนำผักผลไม้ที่รับรองได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มน้ำให้แก่ร่างกายแล้วยังมีประโยชน์ดีๆต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วยจะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

1.แตงโม แน่นอนว่าเป็น หนึ่ง ในผลไม้ที่สามารถหาทานได้ง่ายแถมยังมีราคาที่ถูกมากๆอีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแตงโมเป็น หนึ่ง ในผลไม้ที่สามารถทดแทนน้ำได้ เพราะในแตงโมนั้นจะอุดมไปด้วยน้ำประมาณ 92% บวกกับอุดมไปด้วยไฟเบอร์ สารอาหารอื่นๆ เยอะมากๆ ยิ่งถ้าใครต้องการทำให้ร่างกายสดชื่นหรือเติมน้ำให้แก่ร่างกายขอบอกเลยว่าแตงโมถือเป็น หนึ่ง ในผลไม้ที่ไม่ควรมองข้าง

2.แตงกวา หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในแตงกวานั้นจะอุดมไปด้วยน้ำ 95% ซึ่งถือได้ว่าเยอะมากๆ บวกกับการอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีแคลอรี่ที่ต่ำมากๆ สำหรับใครที่อยากเติมน้ำให้แก่ร่างกายแต่กำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมน้ำหนักขอบอกเลยว่าการทานแตงกวาเป็นประจำนอกจากจะช่วยเติมน้ำและพลังงานให้แก่ร่างกายแล้วยังทำให้การลดน้ำหนักของเรามีประสิทธิภาพได้อีกด้วย

3.มะเขือเทศ หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่ามะเขือเทศอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์เยอะมากๆ และขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณเป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่ามะเขือเทศ ก็สามารถช่วยเพิ่มความสดชื่นและเติมน้ำให้แก่ร่างกายของเราได้เช่นกัน แถมยังสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และช่วยป้องกันการเกิดโรคอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

สนับสนุนข้อมูลโดย  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก